วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
แนะนำ
กลุ่มศาสนาอับราฮัม
ศาสนายูดาห์
ศาสนายูดาห์หรือศาสนายิว
(อังกฤษ: Judaism; ฮีบรู: יהדות) คือวิถีชีวิต ปรัชญา
และศาสนาประเภทเอกเทวนิยมตามความเชื่อของชาวยิวมีต้นกำเนิดในคัมภีร์ฮีบรู
(หรือคัมภีร์ทานัค) รวมถึงคัมภีร์ชั้นหลัง เช่น คัมภีร์ทาลมุด
ศาสนิกชนยูดาห์ถือว่าวิถีนี้เป็นพันธสัญญาระหว่างพระยาห์เวห์กับวงศ์วานอิสราเอลศาสนายูดาห์แบบรับบีถือว่าพระยาห์เวห์ได้ประทานธรรมบัญญัติที่เรียกว่าคัมภีร์โทราห์แก่โมเสสที่ภูเขาซีนาย
ศาสนาบาไฮ
ศาสนาบาไฮหรือลัทธิบาไฮ
(อาหรับ: الدّين البهائي; อังกฤษ: Bahá'í
Faith) เป็นศาสนาที่แยกตัวออกมาจากลัทธิบาบีในปี ค.ศ. 1863[3]
ถือกำเนิดในจักรวรรดิเปอร์เซีย
(ปัจจุบันอยู่ในอาณาเขตของประเทศอิหร่าน) ศาสดาคือพระบะฮาอุลลอฮ์ (พ.ศ 2360-2435)
ศูนย์กลางบาไฮโลกอยู่ที่เมืองไฮฟา มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 2 แห่ง คือ พระสถูปของพระบะฮาอุลลอฮ์อยู่ที่เมืองอัคคา
และพระสถูปของพระบาบอยู่ที่เมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล
ปัจจุบันเป็นศาสนาที่เผยแผ่ได้กว้างขวางเป็นอันดับสองของโลก[ต้องการอ้างอิง]
โดยมีศาสนิกชนกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก
บาไฮศาสนิกชนมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน และอาศัยอยู่ในแทบทุกประเทศทั่วโลก
กลุ่มศาสนาแบบอิหร่าน
ศาสนามาณีกี
ศาสนามาณีกีหรือ ศาสนามานี หรือ มานีธรรม (मानी धर्म - Manichaeism) เป็นศาสนาแบบไญยนิยม
(Gnosticism) ที่มีต้นกำเนิดในจักรวรรดิแซสซานิด
มีพระมานีหัยยา (मानी हय्या) เป็นศาสดา
แม้ว่างานเขียนของท่านจะหายสาบสูญไปทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงมีฉบับแปลในภาษาต่าง ๆ
ตกทอดมาถึงปัจจุบัน
ศาสนาโซโรอัสเตอร์
ศาสนาโซโรอัสเตอร์ (อังกฤษ: Zoroastrianism) เป็นศาสนาและปรัชญาศาสนาอิหร่านเอกเทวนิยมโบราณอย่างหนึ่ง
เคยเป็นศาสนาแห่งรัฐจักรวรรดิอะคีเมนิด พาร์เธียและแซสซานิด
ประมาณจำนวนศาสนิกโซโรอัสเตอร์ทั่วโลกปัจจุบันอยู่ระหว่างประมาณ 145,000 คนเมื่อประมาณ
ค.ศ. 2000 ถึง 2.6 ล้านคนในการประมาณหลัง
ลัทธิบาบี
ลัทธิบาบี (อังกฤษ: Babism) หรือ อัลบาบียะฮ์ (Babi; (เปอร์เซีย: بابی ها Bábí há )) เป็นศาสนาที่พระบาบก่อตั้งขึ้นในประเทศอิหร่าน
เขาประกาศตัวว่าเป็นทายาทของกาซิม รัชติ ผู้นำทางศาสนาคนหนึ่ง
หลังจากนั้นเขาได้อ้างว่าตนเองเป็นประตูสู่อิหม่ามมะฮ์ดี อิหม่ามคนที่ 12 ตามความเชื่อของมุสลิมชีอะฮ์
ต่อมาเขากลับอ้างว่าเป็นอิหม่ามมะฮ์ดีเสียเอง
และในท้ายที่สุดอ้างตนเป็นผู้เผยพระวจนะ
ความเคลื่อนไหวของเขาและสาวกเรียกว่าขบวนการบาบี (Bábí)
กลุ่มศาสนาแบบอินเดีย
ศาสนาเชน
ศาสนาเชน,
ไชนะ หรือ ชินะ (แปลว่า ผู้ชนะ) หรือ เดียรถีย์นิครนถ์ (แปลว่า
ศาสนานอกพุทธศาสนา) (อังกฤษ: Jainism) เป็นศาสนาในประเทศอินเดีย
อนุมานกาลราวยุคเดียวกับสมัยพุทธกาล เป็นหนึ่งในลัทธิสำคัญทั้งหก
ที่เกิดร่วมสมัยกับ พระพุทธเจ้า
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ หรือ ศาสนาสิกข์
(ปัญจาบ: ਸਿੱਖੀ, สัท.:
เกี่ยวกับเสียงนี้ [ˈsɪkːʰiː], อังกฤษ: Sikhism)
เป็นศาสนาที่ถือกำเนิดขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในตอนเหนือของอินเดีย จากคำสอนของ นานัก และคุรุผู้สืบทอดอีก 9 องค์ หลักปรัชญาของศาสนาซิกข์และการปฏิบัติตามหลักศาสนา นิยมเรียกว่า
"คุรมัต" (ความหมายโดยพยัญชนะ หมายถึง "คำสอนของคุรุ" หรือ
"ธรรมของซิกข์")
กลุ่มศาสนาแบบจีน
ศาสนาเต๋า
ลัทธิเต๋า
หรือ ศาสนาเต๋า (จีน: 道教 Dàojiao; อังกฤษ: Taoism) เป็นศาสนาที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตอยู่กับธรรมชาติ
โดยคำว่า เต๋า แปลว่า "มรรค" หรือ "หนทาง"
ซึ่งไม่สามารถรู้ได้ด้วยอักษรและชื่อ ถ่ายทอดไม่ได้
แนวคิดสำคัญอีกประการหนึ่งในศาสนาเต๋าคือเรื่อง
"หยินหยาง" ซึ่งหมายถึง ธรรมชาติที่เป็นของคู่ตรงกันข้าม
สิ่งที่เป็นของคู่ คือ
หยิน (陰
yīn)
คือพลังลบ มีลักษณะสีดำ เป็นพลังความมืด
พบในทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้ความหนาวเย็น ความมืด อ่อนนุ่ม ชื้นแฉะ ลึกลับ
และเปลี่ยนแปลง เช่น เงามืด น้ำ ฯลฯ
หยาง (陽
yáng) คือพลังบวกมีลักษณะสีขาว เป็นพลังแสงสว่าง
พบในทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้ความอบอุ่น สว่างไสว มั่นคง สดใส เช่น ดวงอาทิตย์ ไฟ ฯลฯ
ศาสนาขงจื๊อ
ลัทธิขงจื๊อ
หรือศาสนาขงจื๊อ (อังกฤษ: Confucianism) เป็นระบบด้านจริยธรรมและปรัชญาของจีน
ซึ่งพัฒนาจากการสอนของขงจื๊อ (551 - 479 ปีก่อน ค.ศ.) นักปรัชญาชาวจีน
ลัทธิขงจื๊อถือกำเนิดขึ้นเป็น "งานสอนด้านจริยธรรม-สังคมการเมือง"
ในยุคชุนชิว
แต่ภายหลังพัฒนาส่วนที่เป็นอภิปรัชญาและจักรวาลวิทยาในสมัยราชวงศ์ฮั่น[1]
หลังการละทิ้งลัทธิฟาเฉียในประเทศจีนหลังราชวงศ์ฉิน
ลัทธิขงจื๊อได้กลายมาเป็นอุดมการณ์แห่งรัฐอย่างเป็นทางการของจีน
กระทั่งถูกแทนที่ด้วย "หลัก 3 ประการแห่งประชาชน"
เมื่อมีการสถาปนาสาธารณรัฐจีน
ตามด้วยคอมมิวนิสต์ลัทธิเหมาหลังสาธารณรัฐจีนถูกแทนที่ด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีนในจีนแผ่นดินใหญ่
ลัทธิบัวขาว
ลัทธิบัวขาว
(จีน: 白蓮教 ไป๋เหลียนเจี้ยว)
เป็นขบวนการทางศาสนาและการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศจีนสมัยราชวงศ์หยวน เป็นลัทธิบูชาพระแม่องค์ธรรมเป็นพระเป็นเจ้าสูงสุด
และรอคอยยุคพระศรีอริยเมตไตรย
ซึ่งเป็นอุตมรัฐที่เชื่อว่าสังคมจะรุ่งเรืองสงบสุขตลอดไป
ลัทธิเซียนเทียนเต้า
ลัทธิเซียนเทียนเต้า (จีน: 先天道 Xiāntiān Dào) เป็นลัทธิศาสนาหนึ่งที่หวง
เต๋อฮุย ก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง โดยสืบความเชื่อมาจากลัทธิบัวขาวในสมัยราชวงศ์หยวน
นอกจากนี้ยังรับคำสอนมาจากลัทธิหลัวด้วย ลัทธิเซียนเทียนเต้าเป็นต้นกำเนิดของอีก 5
ลัทธิที่แยกตัวออกมาภายหลัง ได้แก่ ลัทธิอนุตตรธรรม ลัทธิถงซั่นเซ่อ
ลัทธิฉือฮุ่ยถัง ลัทธิเทียนเต๋อเซิ่ง และลัทธิเต้าเยวี่ยน
ลัทธิอนุตตรธรรม
ลัทธิอนุตตรธรรม (จีน: 一貫道 Yīguàn Dào อีก้วนเต้า)
ในประเทศไทงเมื่อปี ค.ศ. 1877[3] คำสอนเป็นการผสานความเชื่อระหว่างลัทธิขงจื๊อ
ลัทธิเต๋า และศาสนาพุทธแบบจีน ทั้งยังยอมรับขนบที่มาจากต่างประเทศ เช่น ศาสนาคริสต์
ศาสนาอิสลามด้วย ลัทธิอนุตตรธรรมเกิดขึ้นและแพร่หลายที่จีนแผ่นดินใหญ่
ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นระบอบคอมมิวนิสต์
ลัทธิอนุตตรธรรมถูกรัฐบาลกวาดล้างอย่างหนัก
จึงย้ายไปเผยแผ่ที่ประเทศไต้หวันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946[3] ในปัจจุบันถือเป็นศาสนาที่มีศาสนิกชนมากที่สุดเป็นอันดับสามในไต้หวัน
(รองจากศาสนาพุทธและศาสนาเต๋า)[2] ในประเทศจีนลัทธินี้ยังไม่ได้รับการยอมรับ
ส่วนไต้หวันได้รับรองในปี ค.ศ. 1987 ปัจจุบันลัทธิอนุตตรธรรมมีศาสนิกชนมากกว่า 10
ล้านคน ใน 86 ประเทศทั่วโลกเรียกว่า
วิถีอนุตตรธรรม[1] เป็นศาสนา[2]ที่หวัง เจฺว๋อี
ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ชิ
กลุ่มศาสนาแบบญี่ปุ่น
ลัทธิชินโต
ชินโต (ญี่ปุ่น: 神道 shintō ?) เป็นลัทธิตามความเชื่อเดิมของชาวญี่ปุ่น
คำว่า ชินโต มาจากตัวอักษรจีน หรือคันจิ 2 ตัวรวมกัน คือ ชิน
(ญี่ปุ่น: 神 shin, kami ?) หมายถึงเทพเจ้า
(ภาษาจีน: 神, พินอิน: shén, เสิน) และ โต (ญี่ปุ่น: 道 tō, do ?) หมายถึงวิถีทางหรือศาสตร์วิชา
(ภาษาจีน: 道, พินอิน: dào, เต้า) หรือ เต๋า ในลัทธิเต๋านั่นเอง เมื่อรวมกันแล้ว
จะหมายถึงศาสตร์แห่งเทพเจ้า หรือวิถีแห่งเทพเจ้า (ญี่ปุ่น: かみのみち kami no michi ?)
ลัทธิชอนโดเกียว
ชอนโดเกียว
(ภาษาเกาหลี: ฮันกุล: 천도교; ฮันจา:
天道敎; อังกฤษ: Cheondoism)
หรือ ศาสนาแห่งวิถีสวรรค์ ศาสนานี้แสดงออกอย่างเปิดเผยว่า
"รักชาติ" และก่อตั้งมาเพื่อต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวง
และการรุกรานของต่างชาติ ศาสนาวิถีแห่งสวรรค์ก่อตั้งเมื่อคริสต์ศักราช 1860
ในช่วงแรกเรียกว่า "ทงฮัก" ซึ่งมีความหมายว่า
"การเรียนรู้แบบตะวันออก"
แตกต่างกับศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นตัวแทนในเวลานั้น
ขบวนการนี้เติบโตจนถึงขึ้นมาเป็นการปฏิวัติชาวนาในคริสต์ศักราช 1890 และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "ชอนโดเกียว" ผู้นำศาสนานี้มีบทบาทสำคัญในขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นสมัยอาณานิคม
ศาสนาเทนริเกียว
ศาสนาเทนริเกียว
เน้นความคิดและการปฏิบัติเพื่อละจากความยึดในตัวตนอันเป็นมายา
หรือการสร้างพิธีกรรมที่ต้องการร่วมใจกัน เช่น การร่ายรำร้องเพลง การสวด
ซึ่งช่วยสลายความเป็นปัจเจกชนและเอื้อให้เกิดการยอมรับตัวตนใหม่ทางศาสนาได้ง่ายขึ้น
ถูกจัดให้อยู่ในเรียวหะชินโต เรียกว่าเป็นชินโตของประชาชน
และจากประวัติศาสตร์ที่ปรากฏมานั้น
มีหลายครั้งหลายคราวที่ศาสดาของเทนรีเคียวได้รับการต่อต้านจากทางรัฐบาลในสมัยนั้น
แต่ด้วยความอดทนของศาสดาที่มุ่งมั่นจะเผยแผ่ศาสนาและทำตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
เทนรีเคียวจึงสามารถดำรงคงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 170
ปีมาแล้ว พระผู้เป็นเจ้าในเทนรีเคียวมีพระนามว่า “โอะยะงะมิ” (โอะยะ แปลว่า Parent หรือ พ่อแม่, คะมิหรืองะมิ แปลว่า พระผู้เป็นเจ้า)
ด้วยความที่พระผู้เป็นเจ้านั้นเปรียบเหมือนพ่อแม่ของมวลมนุษย์ จึงเรียกพระองค์ว่า
พระผู้เป็นเจ้าโอะยะงะมิ และด้วยความที่มนุษย์นั้นสรรเสริญพระบารมีของพระองค์
พวกเขาเหล่านั้นจึงถวายนามถึงพระองค์และภาวนาถึงพระองค์ว่า “เทนรีโอ-โนะ
มิโคะโตะ” ส่วนศาสดาของเทนรีเคียวมีพระนามเดิมว่า “มิคิ นะคะยะมะ” แต่หลังจากที่พระผู้เป็นเจ้าได้อวตารลงมาและได้ใช้สังขารของนาง
มิคิ เป็นที่ประทับ เพื่อเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการสร้างโลก
และสอนวิธีที่จะนำเราไปสู่ชีวิตอันผาสุกเบิกบานใจ เราจึงเรียกท่านว่า “โอะยะซะมะ” (โอะยะ แปลว่า ผู้ให้กำเนิด (พ่อแม่),
ซะมะ แปลว่า พระ-, เจ้า- หรือ ท่าน)
จุดมุ่งหมายสูงสุดของเทนรีเคียว คือ “การดำรงชีวิตอันผาสุกเบิกบานใจ”
จากคำสอนของเทนรีเคียวที่เชื่อว่าร่างกายของคนเราเป็นสิ่งที่ขอยืมมาจากพระผู้เป็นเจ้า
ดังนั้นการดำรงชีวิตในทุกๆ วันของผู้ที่นับถือเทนรีเคียว
จึงเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
ในการที่จะดำรงชีวิตอันผาสุกเบิกบานใจ ภายใต้ร่างกายที่ได้รับการให้ยืมมา
หรือขอยืมมาจากพระผู้เป็นเจ้าโอะยะงะมิและได้รับพรพิทักษ์คุ้มครองจากพระองค์
กลุ่มศาสนาแบบแอฟริกัน
ศาสนาอียิปต์โบราณ
เทพปกรณัมแห่งไอยคุปต์ หรือ
ศาสนาของชาวไอยคุปต์ (อียิปต์โบราณ) คือศาสนาหรือความเชื่อในรูปแบบพหุเทวนิยม
ของชาวอียิปต์โบราณ เมื่อกว่า 3,000 ปีที่แล้ว โดยจะนับถือเทพเจ้าหลายองค์ด้วยกัน
ที่สำคัญๆ ได้แก่ เทพรา เทพโอสิริส เทพโฮรุส เทพอานูบิส เทวีไอสิส เทวีเสลเคต
อิมโฮเตป อาเมนโฮเตป เป็นต้น
กลุ่มศาสนาแบบอินเดีย
ศาสนาเชน
ศาสนาเชน,
ไชนะ หรือ ชินะ (แปลว่า ผู้ชนะ) หรือ เดียรถีย์นิครนถ์ (แปลว่า
ศาสนานอกพุทธศาสนา) (อังกฤษ: Jainism) เป็นศาสนาในประเทศอินเดีย
อนุมานกาลราวยุคเดียวกับสมัยพุทธกาล เป็นหนึ่งในลัทธิสำคัญทั้งหก
ที่เกิดร่วมสมัยกับ พระพุทธเจ้า
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ หรือ ศาสนาสิกข์
(ปัญจาบ: ਸਿੱਖੀ, สัท.:
เกี่ยวกับเสียงนี้ [ˈsɪkːʰiː], อังกฤษ: Sikhism)
เป็นศาสนาที่ถือกำเนิดขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในตอนเหนือของอินเดีย จากคำสอนของ นานัก และคุรุผู้สืบทอดอีก 9 องค์ หลักปรัชญาของศาสนาซิกข์และการปฏิบัติตามหลักศาสนา นิยมเรียกว่า
"คุรมัต" (ความหมายโดยพยัญชนะ หมายถึง "คำสอนของคุรุ" หรือ
"ธรรมของซิกข์")
กลุ่มศาสนาแบบจีน
ศาสนาเต๋า
ลัทธิเต๋า
หรือ ศาสนาเต๋า (จีน: 道教 Dàojiao; อังกฤษ: Taoism) เป็นศาสนาที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตอยู่กับธรรมชาติ
โดยคำว่า เต๋า แปลว่า "มรรค" หรือ "หนทาง"
ซึ่งไม่สามารถรู้ได้ด้วยอักษรและชื่อ ถ่ายทอดไม่ได้
แนวคิดสำคัญอีกประการหนึ่งในศาสนาเต๋าคือเรื่อง
"หยินหยาง" ซึ่งหมายถึง ธรรมชาติที่เป็นของคู่ตรงกันข้าม
สิ่งที่เป็นของคู่ คือ
หยิน (陰
yīn)
คือพลังลบ มีลักษณะสีดำ เป็นพลังความมืด
พบในทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้ความหนาวเย็น ความมืด อ่อนนุ่ม ชื้นแฉะ ลึกลับ
และเปลี่ยนแปลง เช่น เงามืด น้ำ ฯลฯ
หยาง (陽
yáng) คือพลังบวกมีลักษณะสีขาว เป็นพลังแสงสว่าง
พบในทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้ความอบอุ่น สว่างไสว มั่นคง สดใส เช่น ดวงอาทิตย์ ไฟ ฯลฯ
ศาสนาขงจื๊อ
ลัทธิขงจื๊อ
หรือศาสนาขงจื๊อ (อังกฤษ: Confucianism) เป็นระบบด้านจริยธรรมและปรัชญาของจีน
ซึ่งพัฒนาจากการสอนของขงจื๊อ (551 - 479 ปีก่อน ค.ศ.) นักปรัชญาชาวจีน
ลัทธิขงจื๊อถือกำเนิดขึ้นเป็น "งานสอนด้านจริยธรรม-สังคมการเมือง"
ในยุคชุนชิว
แต่ภายหลังพัฒนาส่วนที่เป็นอภิปรัชญาและจักรวาลวิทยาในสมัยราชวงศ์ฮั่น[1]
หลังการละทิ้งลัทธิฟาเฉียในประเทศจีนหลังราชวงศ์ฉิน
ลัทธิขงจื๊อได้กลายมาเป็นอุดมการณ์แห่งรัฐอย่างเป็นทางการของจีน
กระทั่งถูกแทนที่ด้วย "หลัก 3 ประการแห่งประชาชน"
เมื่อมีการสถาปนาสาธารณรัฐจีน
ตามด้วยคอมมิวนิสต์ลัทธิเหมาหลังสาธารณรัฐจีนถูกแทนที่ด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีนในจีนแผ่นดินใหญ่
ลัทธิบัวขาว
ลัทธิบัวขาว
(จีน: 白蓮教 ไป๋เหลียนเจี้ยว)
เป็นขบวนการทางศาสนาและการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศจีนสมัยราชวงศ์หยวน เป็นลัทธิบูชาพระแม่องค์ธรรมเป็นพระเป็นเจ้าสูงสุด
และรอคอยยุคพระศรีอริยเมตไตรย
ซึ่งเป็นอุตมรัฐที่เชื่อว่าสังคมจะรุ่งเรืองสงบสุขตลอดไป
ลัทธิเซียนเทียนเต้า
ลัทธิเซียนเทียนเต้า (จีน: 先天道 Xiāntiān Dào) เป็นลัทธิศาสนาหนึ่งที่หวง
เต๋อฮุย ก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง โดยสืบความเชื่อมาจากลัทธิบัวขาวในสมัยราชวงศ์หยวน
นอกจากนี้ยังรับคำสอนมาจากลัทธิหลัวด้วย ลัทธิเซียนเทียนเต้าเป็นต้นกำเนิดของอีก 5
ลัทธิที่แยกตัวออกมาภายหลัง ได้แก่ ลัทธิอนุตตรธรรม ลัทธิถงซั่นเซ่อ
ลัทธิฉือฮุ่ยถัง ลัทธิเทียนเต๋อเซิ่ง และลัทธิเต้าเยวี่ยน
ลัทธิอนุตตรธรรม
ลัทธิอนุตตรธรรม (จีน: 一貫道 Yīguàn Dào อีก้วนเต้า)
ในประเทศไทงเมื่อปี ค.ศ. 1877[3] คำสอนเป็นการผสานความเชื่อระหว่างลัทธิขงจื๊อ
ลัทธิเต๋า และศาสนาพุทธแบบจีน ทั้งยังยอมรับขนบที่มาจากต่างประเทศ เช่น ศาสนาคริสต์
ศาสนาอิสลามด้วย ลัทธิอนุตตรธรรมเกิดขึ้นและแพร่หลายที่จีนแผ่นดินใหญ่
ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นระบอบคอมมิวนิสต์
ลัทธิอนุตตรธรรมถูกรัฐบาลกวาดล้างอย่างหนัก
จึงย้ายไปเผยแผ่ที่ประเทศไต้หวันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946[3] ในปัจจุบันถือเป็นศาสนาที่มีศาสนิกชนมากที่สุดเป็นอันดับสามในไต้หวัน
(รองจากศาสนาพุทธและศาสนาเต๋า)[2] ในประเทศจีนลัทธินี้ยังไม่ได้รับการยอมรับ
ส่วนไต้หวันได้รับรองในปี ค.ศ. 1987 ปัจจุบันลัทธิอนุตตรธรรมมีศาสนิกชนมากกว่า 10
ล้านคน ใน 86 ประเทศทั่วโลกเรียกว่า
วิถีอนุตตรธรรม[1] เป็นศาสนา[2]ที่หวัง เจฺว๋อี
ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ชิ
กลุ่มศาสนาแบบญี่ปุ่น
ลัทธิชินโต
ชินโต (ญี่ปุ่น: 神道 shintō ?) เป็นลัทธิตามความเชื่อเดิมของชาวญี่ปุ่น
คำว่า ชินโต มาจากตัวอักษรจีน หรือคันจิ 2 ตัวรวมกัน คือ ชิน
(ญี่ปุ่น: 神 shin, kami ?) หมายถึงเทพเจ้า
(ภาษาจีน: 神, พินอิน: shén, เสิน) และ โต (ญี่ปุ่น: 道 tō, do ?) หมายถึงวิถีทางหรือศาสตร์วิชา
(ภาษาจีน: 道, พินอิน: dào, เต้า) หรือ เต๋า ในลัทธิเต๋านั่นเอง เมื่อรวมกันแล้ว
จะหมายถึงศาสตร์แห่งเทพเจ้า หรือวิถีแห่งเทพเจ้า (ญี่ปุ่น: かみのみち kami no michi ?)
ลัทธิชอนโดเกียว
ชอนโดเกียว
(ภาษาเกาหลี: ฮันกุล: 천도교; ฮันจา:
天道敎; อังกฤษ: Cheondoism)
หรือ ศาสนาแห่งวิถีสวรรค์ ศาสนานี้แสดงออกอย่างเปิดเผยว่า
"รักชาติ" และก่อตั้งมาเพื่อต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวง
และการรุกรานของต่างชาติ ศาสนาวิถีแห่งสวรรค์ก่อตั้งเมื่อคริสต์ศักราช 1860
ในช่วงแรกเรียกว่า "ทงฮัก" ซึ่งมีความหมายว่า
"การเรียนรู้แบบตะวันออก"
แตกต่างกับศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นตัวแทนในเวลานั้น
ขบวนการนี้เติบโตจนถึงขึ้นมาเป็นการปฏิวัติชาวนาในคริสต์ศักราช 1890 และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "ชอนโดเกียว" ผู้นำศาสนานี้มีบทบาทสำคัญในขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นสมัยอาณานิคม
ศาสนาเทนริเกียว
ศาสนาเทนริเกียว
เน้นความคิดและการปฏิบัติเพื่อละจากความยึดในตัวตนอันเป็นมายา
หรือการสร้างพิธีกรรมที่ต้องการร่วมใจกัน เช่น การร่ายรำร้องเพลง การสวด
ซึ่งช่วยสลายความเป็นปัจเจกชนและเอื้อให้เกิดการยอมรับตัวตนใหม่ทางศาสนาได้ง่ายขึ้น
ถูกจัดให้อยู่ในเรียวหะชินโต เรียกว่าเป็นชินโตของประชาชน
และจากประวัติศาสตร์ที่ปรากฏมานั้น
มีหลายครั้งหลายคราวที่ศาสดาของเทนรีเคียวได้รับการต่อต้านจากทางรัฐบาลในสมัยนั้น
แต่ด้วยความอดทนของศาสดาที่มุ่งมั่นจะเผยแผ่ศาสนาและทำตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
เทนรีเคียวจึงสามารถดำรงคงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 170
ปีมาแล้ว พระผู้เป็นเจ้าในเทนรีเคียวมีพระนามว่า “โอะยะงะมิ” (โอะยะ แปลว่า Parent หรือ พ่อแม่, คะมิหรืองะมิ แปลว่า พระผู้เป็นเจ้า)
ด้วยความที่พระผู้เป็นเจ้านั้นเปรียบเหมือนพ่อแม่ของมวลมนุษย์ จึงเรียกพระองค์ว่า
พระผู้เป็นเจ้าโอะยะงะมิ และด้วยความที่มนุษย์นั้นสรรเสริญพระบารมีของพระองค์
พวกเขาเหล่านั้นจึงถวายนามถึงพระองค์และภาวนาถึงพระองค์ว่า “เทนรีโอ-โนะ
มิโคะโตะ” ส่วนศาสดาของเทนรีเคียวมีพระนามเดิมว่า “มิคิ นะคะยะมะ” แต่หลังจากที่พระผู้เป็นเจ้าได้อวตารลงมาและได้ใช้สังขารของนาง
มิคิ เป็นที่ประทับ เพื่อเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการสร้างโลก
และสอนวิธีที่จะนำเราไปสู่ชีวิตอันผาสุกเบิกบานใจ เราจึงเรียกท่านว่า “โอะยะซะมะ” (โอะยะ แปลว่า ผู้ให้กำเนิด (พ่อแม่),
ซะมะ แปลว่า พระ-, เจ้า- หรือ ท่าน)
จุดมุ่งหมายสูงสุดของเทนรีเคียว คือ “การดำรงชีวิตอันผาสุกเบิกบานใจ”
จากคำสอนของเทนรีเคียวที่เชื่อว่าร่างกายของคนเราเป็นสิ่งที่ขอยืมมาจากพระผู้เป็นเจ้า
ดังนั้นการดำรงชีวิตในทุกๆ วันของผู้ที่นับถือเทนรีเคียว
จึงเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
ในการที่จะดำรงชีวิตอันผาสุกเบิกบานใจ ภายใต้ร่างกายที่ได้รับการให้ยืมมา
หรือขอยืมมาจากพระผู้เป็นเจ้าโอะยะงะมิและได้รับพรพิทักษ์คุ้มครองจากพระองค์
กลุ่มศาสนาแบบแอฟริกัน
ศาสนาอียิปต์โบราณ
เทพปกรณัมแห่งไอยคุปต์ หรือ
ศาสนาของชาวไอยคุปต์ (อียิปต์โบราณ) คือศาสนาหรือความเชื่อในรูปแบบพหุเทวนิยม
ของชาวอียิปต์โบราณ เมื่อกว่า 3,000 ปีที่แล้ว โดยจะนับถือเทพเจ้าหลายองค์ด้วยกัน
ที่สำคัญๆ ได้แก่ เทพรา เทพโอสิริส เทพโฮรุส เทพอานูบิส เทวีไอสิส เทวีเสลเคต
อิมโฮเตป อาเมนโฮเตป เป็นต้น
เว็บไซต์เพิ่มเติม
https://th.wikipedia.org/wiki/ ศาสนา - วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/ หมวดหมู่:ศาสนา
- วิกิพีเดีย
www.everythaistudent.com/a/205divine.html ศาสนาและลัทธิความเชื่อต่างๆของโลก
https://mogzaaindy.wordpress.com/ กิจกรรมโครงงาน/.../ศาสนาอียิปต์
โบราณ/
https://www.gotoknow.org/posts/613843 ศาสนาขงจื๊อ (Confucius)
- GotoKnow
ลัทธิขงจื๊อ - วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/ลัทธิขงจื๊อ ลัทธิขงจื๊อ - วิกิพีเดีย
ลัทธิช็อนโด - Wikiwand
www.wikiwand.com/th/ลัทธิช็อนโด ลัทธิช็อนโด - Wikiwand
https://th.wikipedia.org/wiki/ หมวดหมู่:ศาสนา
- วิกิพีเดีย
www.everythaistudent.com/a/205divine.html ศาสนาและลัทธิความเชื่อต่างๆของโลก
https://mogzaaindy.wordpress.com/ กิจกรรมโครงงาน/.../ศาสนาอียิปต์
โบราณ/
https://www.gotoknow.org/posts/613843 ศาสนาขงจื๊อ (Confucius) - GotoKnow
ลัทธิขงจื๊อ - วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/ลัทธิขงจื๊อ ลัทธิขงจื๊อ - วิกิพีเดีย
ลัทธิช็อนโด - Wikiwand
www.wikiwand.com/th/ลัทธิช็อนโด ลัทธิช็อนโด - Wikiwand
วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)